“สาบานว่าไม่เสียใจ …. เสียใครไม่เท่าเสียเธอ …. จะยอมให้ใครมาทำร้ายเธอ เป็นไปได้ไง ….. รักเธอประเทศไทย”
นี่คือท่อนฮุกของเพลงชื่อดัง นำมาร้องใหม่ในยุค “ไฟใต้โหมกระหน่ำ” โดย ศิลปิน จากค่าย “อาเอ๊ด” และเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ได้ดู “ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก” โซนเอเชีย ระหว่าง “ไทย กับ ยูเออี” ตอนแรกก็คิดว่าดูไปงั้นล่ะครับ คงจะเป็นเหมือนเคย แต่เมื่อไทยได้ประตูแรกขึ้นมา ทุกอย่างดูจะดีขึ้นทันหูทันตา เมื่อเกมของ “ยูเออี” ดูรวนไป และทีมชาติไทยในชุด “ยังบลัด” ซึ่งยังบลัดนี่ก็เห็นมาหลายชุดแล้ว ที่รู้จักยังบลัดจริงๆ จังๆ ก็ในยุคของ “คาร์ลอส อัลแบร์โต้ คาร์วัลโญ่” กุนซือชาวแซมบ้า ที่กลับบ้านเกิดไปพร้อมด้วยประโยคสุดท้ายที่ทิ้งให้คนได้รู้กันไปเลย “ฟุตบอลไทย ไม่มีทาง ‘เจริญ’ ได้ ถ้าผู้บริหารของสมาคมยังเป็นชุดนี้” นี่แหละครับ คำพูดสุดท้ายของกุนซือที่คนไทยเรียกกันสั้นๆว่า “คาร์ลอส”
ทีมงานชุดใหม่โดยมีหัวหน้าโค้ชเป็นชาว “เยอรมัน” ที่ผมดูแล้วหน้าตาของเขา คล้ายกับ “คริสโตฟ ดอย์ม” อดีตโค้ชทีม “เลเวอร์คูเซ่น” และ โค้ช ของ เบซิคตัส ชุดที่พ่ายต่อพิษสงของ “เจ้าเบ๊บน้อย”(ขออนุญาตใช้คำนี้เรียก รูนี่ย์หน่อยนะครับ เจ๊ย์ เบคแก้ว) และเพียงนัดแรก ก็ทำผลงานได้ “ค่อนข้าง” ดี เมื่อเปิดสนาม(จำเป็น) ราชมังคลากีฬาสถาน ต้อนเอาชนะ “ยูเออี” ขาดลอย 3 ประตูต่อ 0 ทำเอางานนี้เจ๊งกันทั้งประเทศ(สมน้ำหน้ามันพวกนี้) และนัดนี้เป็นการแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ของ “อานนท์ นานอก” แบ็กขวาดาวรุ่งที่ยิงได้ 1 ประตู ซึ่งเป็นประตูสุดสวยเลยด้วย
ประตูนี้เกิดขึ้นมาจากลูกเตะมุมของ “หม่อมเหยิน” เทิดศักดิ์ ใจมั่น มิดฟิลด์กัปตันทีมชาติไทย เปิดเตะมุมเข้ามา กองหลังของ “ยูเออี” โหม่งเคลียร์ออกมาหน้าเขตโทษ ลูกกลิ้งมาเรื่อยเหมือนจะไม่มีอะไรแล้ว ในขณะนั้นไม่มีผู้เล่นของ “ยูเออี” อยู่บริเวณนั้น จึงเป็นจังหวะของ “อานนท์” ที่เติมขึ้นมาจากด้านหลัง ก่อนจะกดเต็มๆ ด้วยเท้าขวา บอลลอยโด่งพุ่งผ่านตัวบล็อกของกองหลัง ยูเออี ลอยผ่านหน้าผู้รักษาประตูของทีมอาหรับเข้าไป ให้ไทยได้ประตูที่ 2 และเป็นการเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับทีม
จากลูกที่ 2 นี้ทำให้โค้ชชาว ฮอลแลนด์ ของ ยูเออี นั่งไม่ติด ต้องเปลี่ยนเอา “อุสมาเอล มาทาร์” นักเตะยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนท์เยาวชนชิงแชมป์โลก ลงมา ซึ่งนัดที่ มาทาร์ อยู่ในสภาพที่ไม่เต็มร้อยนัก และเมื่อลงมาก็ทำได้ไม่เต็มที่ จบครึ่งแรกไทย นำยูเออี 2 – 0
ครึ่งหลัง ไทยมาได้ประตูเพิ่มจากจังหวะหลุดเดี่ยวไปตัวๆ กับผู้รักษาประตูของ “สุธี สุขสมกิจ” แต่ดันยิงพลาด 2 จังหวะและจังหวะสุดท้าย เมื่อ สุธี รู้ตัวว่ายิงไม่ได้แล้ว เขาจึงตบบอลคืนหลังมาให้กับ “พี่เหยิน” แปด้วยเท้าขวาเข้าประตูไป เรียกเสียงเชียร์จากแฟนบอลได้ทั่วสนาม และจบเกมไม่มีใครทำประตูเพิ่มได้ไทยจึงชนะไป 3 – 0
แม้การเล่นนัดนี้ จะเป็นการเล่น “สวยเมื่อสาย” ของทีมชาติไทย แต่ยังไงก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีของโค้ชจาก “เยอรมัน” ครับ หลายคนก็คงจะหวังเหมือนผมเช่นกันว่าโค้ชคนนี้ จะไม่ใช่ของปลอมเหมือนหลายๆ คนที่ผ่านมา แต่ก็อย่างที่ คาร์ลอส พูดไว้นั่นแหละครับ โค้ชหลายคนที่ตบเท้าเข้ามานั้น ไม่ประสบความสำเร็จถามว่า “เพราะอะไร ?” ที่คาร์ลอสพูดไว้นั่นแหละ “เพราะว่าสมาคมน่ะ ชอบเข้าไปจุ้นจ้าน” โค้ชจะทำแบบนี้ ไอ้คนนู้นบอกน่าจะอย่างงี้ ไอ้นี่บอกน่าจะเอาอย่างงั้น “แล้วตกลงจะเอายังไงกันแน่ครับ ??”
จากคำพูดของ คาร์ลอส น่าจะทำให้ “คนบางคน” ที่ชอบไปจุ้นจ้านกับการทำงานของโค้ช น่าจะอยู่นิ่งๆ ไว้บ้างแล้วค่อยๆ ดูผลงานของเขาทีละน้อยๆ ค่อยๆ เป็นค่อยไป ไม่ใช่เร่งรัดจะให้ได้ดี “เพราะอะไรที่มันถูกดันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มันก็สามารถล้มโครม และพังอย่างรวดเร็วเช่นกัน” ก็หวังว่าจะมีคนของสมาคมมาอ่านบทความนี้มั่งนะครับ เอ .. !! แต่ความจริงไม่มาอ่านก็น่าจะ “รู้ตัว” แล้วนะ อืมม คงไม่ต้องให้คนอายุแค่ “14” อย่างผมมาสอน แต่ไม่แน่หรอกครับ เพราะบางที “ผู้ใหญ่บางคนที่ดูว่าฉลาดน่ะ บางทีโง่ซะยิ่งกว่าอะไรเสียอีก”
“สาบานว่าไม่เสียใจ เสียใครไม่เท่าเสียเธอ จะยอมให้ใครมาทำร้ายเธอเป็นไปได้ไง รักเธอ ‘ฟุตบอลไทย’ ” ไปมันดื้อๆ อย่างงี้แหละครับ “สวัสดี”
ซาอุดรฯ

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC